RT @thidakarn: @kongwonderland การอักเสบที่พูดถึงในงานวิจัย เป็นการอักเสบในระดับโมเลกุลที่ไม่มีอาการ แต่เป็นกลไกที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง…
RT @thidakarn: @kongwonderland การอักเสบที่พูดถึงในงานวิจัย เป็นการอักเสบในระดับโมเลกุลที่ไม่มีอาการ แต่เป็นกลไกที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง…
RT @thidakarn: @kongwonderland การอักเสบที่พูดถึงในงานวิจัย เป็นการอักเสบในระดับโมเลกุลที่ไม่มีอาการ แต่เป็นกลไกที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง…
RT @thidakarn: @kongwonderland การอักเสบที่พูดถึงในงานวิจัย เป็นการอักเสบในระดับโมเลกุลที่ไม่มีอาการ แต่เป็นกลไกที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง…
RT @thidakarn: @kongwonderland การอักเสบที่พูดถึงในงานวิจัย เป็นการอักเสบในระดับโมเลกุลที่ไม่มีอาการ แต่เป็นกลไกที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง…
RT @thidakarn: @kongwonderland การอักเสบที่พูดถึงในงานวิจัย เป็นการอักเสบในระดับโมเลกุลที่ไม่มีอาการ แต่เป็นกลไกที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง…
RT @thidakarn: @kongwonderland การอักเสบที่พูดถึงในงานวิจัย เป็นการอักเสบในระดับโมเลกุลที่ไม่มีอาการ แต่เป็นกลไกที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง…
RT @thidakarn: @kongwonderland การอักเสบที่พูดถึงในงานวิจัย เป็นการอักเสบในระดับโมเลกุลที่ไม่มีอาการ แต่เป็นกลไกที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง…
RT @thidakarn: @kongwonderland การอักเสบที่พูดถึงในงานวิจัย เป็นการอักเสบในระดับโมเลกุลที่ไม่มีอาการ แต่เป็นกลไกที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง…
RT @thidakarn: @kongwonderland การอักเสบที่พูดถึงในงานวิจัย เป็นการอักเสบในระดับโมเลกุลที่ไม่มีอาการ แต่เป็นกลไกที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง…
RT @thidakarn: @kongwonderland การอักเสบที่พูดถึงในงานวิจัย เป็นการอักเสบในระดับโมเลกุลที่ไม่มีอาการ แต่เป็นกลไกที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง…
@kongwonderland การอักเสบที่พูดถึงในงานวิจัย เป็นการอักเสบในระดับโมเลกุลที่ไม่มีอาการ แต่เป็นกลไกที่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจ จากสารต่างๆที่ถูกหลั่งออกมาและส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ค่ะ https://t.co/5niRnPHlxM